โฆษณาต่อต้านคอร์ปชั่น

พระมหาสมปอง กล่าวเชิญชวนทุกๆ ท่านมาร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

วิธีการระงับอารมณ์โกรธ

ตอบแทนพระคุณบิดามารดา

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตึกที่สูงที่สุดในโลก


Burj Dubai กลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
รับผิดชอบการก่อสร้างโดยบริษัทจากเกาหลีใต้ ซัมซุง เอนจิเนียริ่ง

เบิร์จดูไบ เริ่มสร้างตั้งแต่ค.ศ. 2005 ออกแบบโดย เอสโอเอ็ม ผู้ออกแบบเดียวกันกับ เซียร์ทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน และ ฟรีดอมทาวเวอร์ ที่กำลังจะก่อสร้าง โดยสถาปัตยกรรมในส่วนหนึ่งเป็นการผสมผสานกับรูปแบบของสถาปัตยกรรมอิสลาม และในอีกส่วนหนึ่งมีความใกล้เคียงกับงานออกแบบของตึก ดิอิลลินอยส์ ของ แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ สถาปนิกชาวอเมริกัน

การตกแต่งภายในจะตกแต่งโดย จอร์โจ อาร์มานี โดยเป็นโรงแรมอาร์มานีสำหรับ 37 ชั้นล่าง โดยชั้น 45 ถึง 108 จะเป็น อพาร์ตเมนต์ โดยที่เหลือจะเป็นสำนักงาน และชั้นที่ 123 และ 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึก ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสาร นอกจากนี้ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่

ตึกนี้จะติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก ที่ความเร็ว 18 ม/วินาที (65 ก.ม./ชม., 40 ไมล์/ชม.) โดยลิฟต์ที่มีความเร็วสูงสุดปัจจุบันอยู่ที่ ไทเป 101 ที่ความเร็ว 16.83 ม/วินาที

สถิติที่เบิร์จ ดูไบครองอยู่ในปัจจุบัน
อาคารที่มีจำนวนชั้นมากที่สุด: 162 (เดิมอาคารเซียร์ -108 ชั้น)
ตึกระฟ้าสูงที่สุดในโลกนับถึงชั้นหลังคา: 546 เมตร วันที่ 27 สิงหาคม 2550 (เดิมอาคารไทเป 101 -449.2 เมตร)
ปั๊มคอนกรีตทางดิ่งที่สูงที่สุดในโลก (สำหรับการสร้างอาคาร) 512.1 เมตร (เดิมอาคารไทเป 101 -439.2 เมตร)
ปล่องลิฟต์ที่ยาวที่สุดในโลก 514 เมตร

คำอาราธนาศีล 8


คำอาราธนาศีล 8
มะยังภันเต ติสะระเณ นะสะหะ อัฏฐะสีลานิ ยาจามะ
ทุติยัมปิมะยังภันเต ติสะระเณ นะสะหะ อัฏฐะสีลานิ ยาจามะ
ตะติยัมปิมะยังภันเต ติสะระเณ นะสะหะ อัฏฐะสีลานิ ยาจามะ
คำอาราธนานี้ใช้สำหรับการสมาทานศีลพร้อมกันหลายๆ คน
ถ้าคนเดียว เปลี่ยนคำว่า “มะยัง” เป็น “อะหัง” และ “ยาจามะ” เป็น “ยาจามิ”
คำอาราธนาอุโบสถศีล
มะยังภันเต ติสะระเณ นะสะหะ อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง,อุโปสะถัง ยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยังภันเต ติสะระเณ นะสะหะ อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง,อุโปสะถัง ยาจามะ
ตะติยัม มะยังภันเต ติสะระเณ นะสะหะ อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง,อุโปสะถัง ยาจามะ
คำอาราธนานี้ใช้สำหรับการสมาทานศีลพร้อมกันหลายๆ คน
ถ้าคนเดียว เปลี่ยนคำว่า “มะยัง” เป็น “อะหัง” และ “ยาจามะ” เป็น “ยาจามิ”
ศีล 8 และอุโบสถศีล
ข้อ 1. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(เว้นจากการฆ่าสัตว์ ทั้งมนุษย์และสัตว์เดรัจฉาน)
ข้อ 2. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(เว้นจากการลักทรัพย์)
ข้อ 3. อะพรัหมะจะริยา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(เว้นจากอสัทธรรม กรรมอันเป็นข้าศึกแห่งพหรมจรรย์)
ข้อ 4. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(เว้นจากการพูดเท็จ และฉ้อฉลหลอกลวง)
ข้อ 5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(เว้นจากการดื่มสุราและเมรัย)
ข้อ 6. วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือตั้งแต่หลังเที่ยงจนรุ่งอรุณ)
ข้อ 7. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะ มัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(เว้นจากการฟ้อนรำขับร้องและการบรรเลง ตลอดจนถึงการดู การฟังสิ่งเหล่านั้น และเว้นจากการทัดทรงดอกไม้ การใช้ของหอมเครื่องประทินผิวหรือเครื่องสำอางค์ทุกชนิด)
ข้อ 8. อุจจาสะยะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(เว้นจากการนอนที่นอนสูงใหญ่ และยัดนุ่นสำลีหรือของนุ่มอันมีลายวิจิตร)
เมื่อจบสิกขาบทดังกล่าวแล้ว ผู้รับศีลพึงกล่าวคำสมาทานอีกดังนี้
อิมัง อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง พุทธะปัญญัตตัง อุโปสะถัง อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง สัมมะเทวะ อะภิรัปขิตุง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานอุโบสถศีลที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ ประกอบไปด้วยองค์ 8 ประการ นี้ เพื่อจะรักษาไว้ไม่ให้ขาด ไม่ให้ทำลาย ตลอดเวลา วันหนึ่ง คืนหนึ่ง ณ เวลาวันนี้ ) จากนั้นพระสงฆ์กล่าวสรุปอุโบสถศีลดังนี้…
อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ, อัชเฌกัง รัตติง เอวัง อุโปสะถะสีละวะเสนะ, สาธุกัง กัตวา อัปปะมาเทนะ รักขิตัพพานิ
(ขอท่านทั้งหลายจงรักษาสิกขาบททั้งแปดข้อนี้ไว้ให้ดี อย่าประมาท ต่ออำนาจศีลอุโบสถตลอดราตรีหนึ่ง)
ผู้รับศีลพึงตอบรับว่า “สาธุ ภันเต”
แมวเหมียวได้คัดลอกมาจากหนังสือสวดมนต์วัดป่าบวรสังฆาราม จากหน้า 111- 115 ผู้เขียนหนังสือสวดมนต์มีความหนา 245 หน้าคือ “พระธรรมธรอนุชาติ อภิชาโต เจ้าอาวาสวัดป่าบวรสังฆาราม
ตามความเห็นของแมวเหมียวเห็นว่าศีลมีความสำคัญต่อการฝึกสมาธิมากที่สุด สมาธิ และปัญญาจะเกิดขึ้นได้นั้นต้องฝึกปฏิบัติให้ได้ก่อน คือฝึกขั้นวิสุทธิศีลคือศีลบริสุทธิ์ เพียงการที่จิตคิดละเมิดศีลก็คือผิดศีลแล้ว ดังนั้นศีลจึงมีประโยชน์คือมีไว้สำหรับล้างจิตใจให้สะอาดก่อนการฝึกสมาธิ เมื่อจากสะอาดแล้วย่อมเกิดสมาธิมาเองโดยอัติโนมัติมาเอง จึงมีคำสั่งสอนไว้ว่า “ทานมีอนิสงส์ให้เกิด ศีล ….ศีลมีอนิสงส์ให้เกิดสมาธิ….สมาธิมีอนิสงส์ให้เกิดปัญญา….ปัญญามีอนิสงค์ให้เกิดญาณรู้แจ้งเห็นจริงหมดความสงสัยในธรรมทั้งหลายและบรรลุธรรมในที่สุด”